ทุกคนคงไม่อยากให้ตัวเองและคนใกล้ตัมีอาการป่วย เพราะนอกจากจะทำให้เสียทั้งสุขภาพกายและใจแล้ว บางครั้งยังเสียค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยในการรักษา บางโรคไม่สามารถหายเองได้ต้องไปพบแพทย์ วันนี้เราจึงขอนำเสนอข้อมูลของ
โรคอาหารเป็นพิษ โรคที่พบบ่อยและมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน เพื่อจะได้รู้ถึงสาเหตุและหาทางระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดความเจ็บป่วยต่าง ๆ ตามมา
โรคอาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่เกิดจากการที่รับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษบางอย่างเข้าไป อาจะเกิดจากวิธีการทำหรือการเก็บรักษาที่ไม่ระมัดระวังพอ ส่งผลให้เกิดความรุนแรงและอาการต่าง ๆ ของร่างกาย โดยสาเหตุของการเกิด
อาการ อาหาร เป็น พิษ เป็นได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิตหรือเกิดจากสารพิษของเชื้อโรคที่อยู่ในอาหาร รวมไปถึงพิษของสาหร่ายบางชนิดและพิษของปลาปักเป้า
อาการของโรคนี้มีผลกระทบกับระบบทางเดินอาหารเป็นส่วนใหญ่ โดยมีทั้งอาการคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง และถ่ายเป็นมูกปนเลือด บางครั้งก็อาจพบว่ามีอาการปวดศีรษะและเป็นไข้ร่วมด้วย โดยผู้ป่วยส่วนมากจะพบว่ามีอาการไม่ค่อยรุนแรงสามารถหายได้เอง แต่ก็มีบางรายที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาแบบ ipd คือ เป็นผู้ป่วยใน ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
วิธีการรักษา อาการ อาหาร เป็น พิษ เบื้องต้นคือการรักษาตามอาการ หากมีอาการท้องร่วงให้ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน และรับประทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนในกรณีที่มีอาการ เป็นต้น โดยสามารถหาซื้อผงเกลือแร่ได้ตามร้านค้าและร้านขายยาทั่วไป หรือจะเตรียมน้ำเกลือแร่ได้เองแบบง่าย ๆ ด้วยการผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือ ½ ช้อนชา ลงในน้ำเปล่า 750 มล. คนให้เข้ากันแล้วต้มจนเดือด ก็สามารถใช้ดื่มเพื่อทดแทนอาการขาดน้ำและเกลือแร่ที่อาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ ซึ่งส่วนมากแล้วอาการอาหารเป็นพิษ จะหายได้เองภายใน 1-2 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหลังจาก 2 วัน ควรไปพบแพทย์
วิธีป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ คือรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง หรือหากเตรียมไว้นานแล้วให้อุ่นร้อนก่อนรับประทาน จะช่วยทำลายเชื้อโรคหรือสารพิษของเชื้อโรคในอาหารที่อาจเป็นตัวก่อโรคอาหารเป็นพิษตามมา นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารเมนูเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอื่น ๆ ด้วย
นอกจากโรคอาหารเป็นพิษแล้วก็ยังมีโรคอื่น ๆ ที่ควรระมัดระวังในเด็ก เช่น อาการ ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดต่ออื่น ๆ ซึ่งในผู้ปกครอง ควรดูแลใส่ใจและควรแนะนำเรื่องสุขลักษณะในการรับประทานอาหารตั้งแต่ที่บ้าน เพราะผู้ปกครองไม่ได้อยู่กับเด็กตลอดเวลา การฝึกให้เด็ก ๆ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกอยู่เสมอ และมีความเป็นระเบียบในการรับประทานอาหาร ก็จะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและอาการป่วย ลดอัตราการที่ต้องรักษาแบบ ipd คือ ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลได้อีกด้วย